ประชาชน แห่ลงทะเบียนบัตรคนจน แตะ 10.4 ล้านคน

ประชาชน แห่ลงทะเบียนบัตรคนจน แตะ 10.4 ล้านคน

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าการเปิดรับลงทะเบียนโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (โครงการฯ) ปี 2565 วันจันทร์ที่ 12 กันยายน 2565 ณ เวลา 15.00 น. มีประชาชนลงทะเบียนแล้วทั้งสิ้น 10,416,889 ราย โดยเป็นการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ 7,366,170 ราย และลงทะเบียนผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียน 3,050,719 ราย

ทั้งนี้ ประชาชนที่สนใจสามารถลงทะเบียนได้ 2 ช่องทาง คือ 1) ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th ได้ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ถึง 23.00 น.ของทุกวัน หรือ 2) ลงทะเบียนผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ได้แก่ สาขาของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทยฯ) สำนักงานคลังจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ สังกัดกรมบัญชีกลาง ที่ว่าการอำเภอทั้ง 878 อำเภอทั่วประเทศ ภายใต้กระทรวงมหาดไทย

สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร ทั้ง 50 เขต และศาลาว่าการเมืองพัทยา เมืองพัทยา ตามวันและเวลาทำการของแต่ละหน่วยงาน ได้ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน 2565 จนถึงวันที่ 19 ตุลาคม 2565 สำหรับการลงทะเบียนในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ สามารถลงทะเบียนได้ที่สาขาของธนาคารข้างต้นที่เปิดให้บริการในห้างสรรพสินค้า เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่ไม่สามารถลงทะเบียนได้ในวันธรรมดา

ออกแบบ.jpg19

จากการเปิดรับลงทะเบียนที่ผ่านมาพบว่า ประชาชนยังมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนในเรื่องการลงทะเบียน โดยขอชี้แจงประเด็นที่สำคัญ ดังนี้

1.ประชาชนที่สนใจและมีคุณสมบัติตามที่โครงการฯกำหนด สามารถลงทะเบียนได้ทุกคน ซึ่งหากเป็นประชาชนที่มีครอบครัวแล้ว สามารถลงทะเบียนได้ทั้งสามีและภรรยา ซึ่งหากทั้งสามีและภรรยาผ่านการตรวจสอบเกณฑ์คุณสมบัติ ก็ย่อมมีสิทธิในการรับสวัสดิการของรัฐตามโครงการฯ “ไม่ใช่หนึ่งครอบครัวหนึ่งสิทธิ”
2.ผู้ลงทะเบียนสามารถเลือกช่องทางการลงทะเบียนได้ตามที่ผู้ลงทะเบียนสะดวก ได้แก่ 1) ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ หรือ 2) ลงทะเบียนผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียน โดยกรณีที่ผู้ลงทะเบียนเป็นคนโสดหรือไม่มีครอบครัวสามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์โดยไม่ต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติม สำหรับกรณีผู้ลงทะเบียนมีครอบครัวสามารถไปที่หน่วยงานรับลงทะเบียนพร้อมทั้งครอบครัว โดยนำบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงของผู้ลงทะเบียน คู่สมรสและบุตร แสดงตัวที่หน่วยงานรับลงทะเบียนสำหรับกรณีที่คู่สมรสและบุตรไม่ได้เดินทางมาแสดงตัวที่หน่วยงานรับลงทะเบียน ผู้ลงทะเบียนสามารถนำสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของคู่สมรสและบุตรพร้อมลงลายมือชื่อรับรองความถูกต้องยื่นที่หน่วยงานรับลงทะเบียนได้เช่นเดียวกัน

3.ผู้ลงทะเบียนที่เป็นผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินทางมาลงทะเบียนได้ด้วยตนเอง สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นมาลงทะเบียนแทนได้ ทั้งนี้ สามารถดาวน์โหลดหนังสือมอบอำนาจได้จากเว็บไซต์ของโครงการฯ หรือติดต่อขอรับได้ที่หน่วยงานรับลงทะเบียนทุกหน่วย การลงทะเบียนในครั้งนี้ได้จัดให้มีผู้ช่วยอำนวยความสะดวกในการรับลงทะเบียนตามจุดรับลงทะเบียน โดยเป็นผู้ที่อยู่อาศัย ผู้ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ หรือพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อความคุ้นเคยกับผู้ลงทะเบียนและสามารถเดินทางได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ กระทรวงการคลังมีความร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในการขอความอนุเคราะห์ให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกแก่กลุ่มเปราะบางในพื้นที่ในการลงทะเบียน สำหรับเอกสารที่ต้องยื่นที่หน่วยงานรับลงทะเบียนในกรณีดังกล่าว ประกอบด้วย

(1) แบบฟอร์มการลงทะเบียนที่ลงนามโดยผู้ลงทะเบียน (ลงนามในส่วนที่ 7 และ 8)
(2) หนังสือมอบอำนาจ
(3) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ลงทะเบียน (ผู้มอบอำนาจ) พร้อมลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง
(4) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ พร้อมลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง
(5) สำเนาบัตรประจำตัวคนพิการ (ถ้ามี) หรือใบรับรองแพทย์ (ถ้ามี)

4.การสมัครลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ไม่มีค่าใช้จ่ายในการลงทะเบียน โดยประชาชนที่สนใจและมีคุณสมบัติตามที่โครงการฯกำหนด สามารถลงทะเบียนได้ทุกคน โดยขอให้ผู้ลงทะเบียนตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องก่อนยืนยันการลงทะเบียน และสำหรับผู้ลงทะเบียนที่ยื่นเอกสาร ณ หน่วยงานรับลงทะเบียน ขอให้เก็บรักษาส่วนที่ 11 ของแบบฟอร์มลงทะเบียนเป็นหลักฐานในการยืนยันการลงทะเบียน อย่าให้สูญหาย เพื่อประโยชน์ต่อผู้ลงทะเบียนต่อไป

สำหรับผู้ลงทะเบียนทุกคนที่ลงทะเบียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว สามารถ “ตรวจสอบสถานะการลงทะเบียน” ด้วยตนเองผ่านทางเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th หรือตรวจสอบผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทุกหน่วยงานได้ทุกวันศุกร์ของสัปดาห์ถัดไป เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2565

นิทรรศการ “ออกแบบ แบบญี่ปุ่น” แรงบันดาลใจผู้หญิงเจนใหม่

สาวๆ คนไหนชอบไปดูนิทรรศการบ้าง Thairath Women ขอแนะนำนิทรรศการ “ออกแบบ แบบญี่ปุ่น” (Japanese Design Today 100) นิทรรศการสัญจรที่รวมสุดยอดงานดีไซน์จำนวน 100 ชิ้น

ที่สะท้อนแนวคิดการออกแบบของดีไซเนอร์ญี่ปุ่น ผ่านการคิดออกแบบบนพื้นฐานของความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานเป็นหลัก พร้อมบูรณาการศาสตร์และศิลป์การออกแบบที่ร่วมสมัย โดยไม่ละทิ้งวัฒนธรรมดั้งเดิม

ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ ไล่สัตรูไกล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หรือ CEA กล่าวว่า ประเทศญี่ปุ่น…ถือเป็นหนึ่งในประเทศแถบเอเชีย ที่มีความโดดเด่นด้านจารีตประเพณีและศิลปวัฒนธรรม มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมทั้งมีแนวความคิดด้านการออกแบบที่โดดเด่นอย่างสร้างสรรค์ ที่สามารถผสมผสานจารีตและวิถีแห่งวัฒนธรรมดั้งเดิม ร่วมกับเทคโนโลยีงานดีไซน์แต่ละยุคสมัย สู่จุดยืนในการออกแบบ “แบบร่วมสมัย” ได้อย่างเด่นชัด อันนำไปสู่แนวทางการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมต่อการใช้งานของผู้คนตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน ซึ่งนับได้ว่า ประเทศญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในประเทศที่ทรงอิทธิพลด้านการออกแบบเป็นอย่างมาก

ซีอีเอ จึงได้ผสานความร่วมมือกับ เจแปนฟาวน์เดชั่น กรุงเทพฯ เปิดนิทรรศการ “ออกแบบ แบบญี่ปุ่น” หรือ “Japanese Design Today 100” นิทรรศการระดับเวิร์ลคลาสที่รวบรวมผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ และการออกแบบสมัยใหม่ ที่เผยให้เห็นแนวคิดของนักออกแบบญี่ปุ่นที่มีความตั้งใจออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ชีวิตประจำวันของผู้คน จำนวน 100 รายการ ใน 10 ประเภทการใช้งาน อาทิ งานออกแบบคลาสสิกระดับตำนานของญี่ปุ่น เครี่องใช้บนโต๊ะอาหารและเครื่องครัว และของใช้สำหรับเด็ก ซึ่งทั้งหมดเป็นการออกแบบบนพื้นฐานการสำรวจความต้องการและพฤติกรรมของผู้ใช้งานจริง เพื่อจุดประกายไอเดียสร้างสรรค์แก่นักออกแบบและผู้ผลิตไทยให้มีทักษะในการมิกซ์แอนด์แมตช์ (Mix & Match) วัสดุพื้นถิ่นรอบตัว ภูมิปัญญาดั้งเดิม เทคโนโลยีงานดีไซน์รูปแบบต่างๆ สู่การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีฟังก์ชั่นที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ออกแบบ.jpg06

ทั้งนี้ นิทรรศการสัญจร “ออกแบบ แบบญี่ปุ่น” จะจัดแสดงบนพื้นที่ 200 ตารางเมตร ของห้องแกลอรี่ ชั้น 1 อาคารส่วนหลัง ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ กรุงเทพฯ พร้อมเปิดให้เข้าชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้งแบบรายบุคคลและหมู่คณะ ระหว่างวันที่ 24 เมษายน – 26 พฤษภาคม 2562 อย่างไรก็ดี นิทรรศการสัญจร “ออกแบบ แบบญี่ปุ่น” ถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่จะได้สัมผัสถึงแก่นแท้ของการออกแบบผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานโดยแท้จริง บนพื้นฐานของการบูรณาการองค์ความรู้ทุกสรรพสิ่งแบบร่วมสมัย ที่จะเป็นองค์ความรู้ตั้งต้นในการคิด ออกแบบ และผลิตสินค้าในอนาคต และภายหลังจากการจัดแสดงผลงานดีไซน์จากประเทศญี่ปุ่นในพื้นที่กรุงเทพฯ เรียบร้อยแล้ว นิทรรศการดังกล่าวยังคงเดินหน้าไปถ่ายทอดแนวคิดแก่เยาวชน และนักออกแบบไทยในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกอย่าง ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ เชียงใหม่ (TCDC เชียงใหม่) และคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ตามลำดับ

ด้านนายโนริฮิโกะ โยชิโอกะ ผู้อำนวยการบริหารเจแปนฟาวน์เดชั่น กรุงเทพฯ กล่าวว่า นิทรรศการ “ออกแบบ แบบญี่ปุ่น” นิทรรศการสัญจรที่เดินทางไปจัดแสดงในหลายประเทศทั่วโลก ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา อาทิ สหรัฐอเมริกา จีน และสิงคโปร์ โดยมีเป้าประสงค์ในการแลกเปลี่ยนแนวคิดด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันของคนญี่ปุ่น ควบคู่กับการออกแบบสมัยใหม่ ในสมัยปี 50 – 60 ซึ่งถือเป็นช่วงที่มีอิทธิพลสำคัญต่อการออกแบบในปัจจุบัน ผ่านตัวอย่างผลงานการออกแบบจำนวน 100 รายการ ซึ่งผลิตภัณฑ์ทั้งหมดได้รับการคัดสรรโดยภัณฑรักษ์ชาวญี่ปุ่น 4 ท่าน คือ คุณฮิโรชิ คาชิวางิ คุณมาซาฟูมิ ฟูคากาวะ คุณโนริโกะ คาวากามิ และคุณชู ฮางิวาระ

โดยนิทรรศการดังกล่าว ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ 10 กลุ่มตามฟังก์ชั่นการใช้งาน คือ งานออกแบบคลาสสิกระดับตำนานของญี่ปุ่น เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ในครัวเรือน เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารและเครื่องครัว เครื่องแต่งกายและเครื่องประดับ ของใช้สำหรับเด็ก อุปกรณ์เครื่องเขียน อุปกรณ์กิจกรรมสันทนาการ ของใช้สำหรับสุขภาพ ขนส่ง และอุปกรณ์กู้ภัยและบรรเทาสาธารณภัย

สำหรับไฮไลต์ผลงานภายในนิทรรศการ มีดังนี้ “ขวดบรรจุซอสถั่วเหลืองชิ้นแรก” ที่ได้รับการออกแบบให้เทซอสได้ในทันที โดยไม่ต้องเปิดฝา “เสื้อโค้ทเพื่อชีวิต” ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการหลีกหนีภัยพิบัติของชาวญี่ปุ่นในภาวะอากาศหนาว และมีความจำเป็นต้องกักตุนของใช้สำคัญติดตัว “อุปกรณ์บอกอุณหภูมิ” อุปกรณ์บอกร้อน-เย็นสำหรับปิดฝาถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก่อนสัมผัส และ “กล้องเล็กเลนส์กว้าง GR” กล้องคอมแพคที่มีระบบชัตเตอร์สูงเหมาะสำหรับถ่ายภาพเหตุการณ์และความรู้สึกแนวสตรีท

เอาล่ะ…สาวๆ ที่ชื่นชอบนิทรรศการแบบนี้ หรือกำลังมองหาไอเดียไปต่อยอดเรื่องต่างๆ ที่นี่อาจเป็นแรงบันดาลใจให้กับสาวเจนใหม่ก็ได้นะ ไปชมกันจ้า.

ชาวเเม่สอดขอ“บิ๊กป้อม”ไฟเขียวอุทยานไมซ์-พัฒนาพื้นที่เชื่อมตะวันออกกลาง

ชาวเเม่สอดขอ“บิ๊กป้อม”ไฟเขียวอุทยานเรียนรู้ไมซ์-พัฒนาพื้นที่เชื่อม เมียนมา-อินเดีย-ตะวันออกกลาง เชื่อช่วยกระตุ้นจีดีพีโตหลายเท่า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาการนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จ.ตากในวันนี้นั้น ในช่วงหนึ่งของการลงพื้นที่น.ส.ธนชพร ต๊ะทองคำ นายกอบต.เเม่ปะ อ.เเม่สอดจ.ตากได้ขอเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาหลักการเเละงบประมาณการก่อสร้างอุทยานการเรียนรู้ประตูสู่อารยธรรม สองวัฒนธรรม และอุตสาหกรรมไมซ์ ( MICE) บริเวณอนุสรณ์ผู้เสียสละ อบต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก

น.ส.ธนชพร กล่าวว่า ตนได้ฟังเสียงสะท้อนเบื้องต้นจากประชาชนว่า เพื่อให้พื้นที่อ.เเม่สอด จ.ตากเป็นประตูเชื่อมตะวันออก-ตะวันตกของภูมิภาคอาเซียนตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ20ปีและแผนปฏิรูปประเทศซึ่งรัฐบาลได้วางกรอบนโยบายและแนวทางปฏิบัติไว้นั้น โดยพบว่ามติคณะรัฐมนตรี 19 ม.ค. 2558 ให้ 5 พื้นที่จัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยจังหวัดตากเป็นหนึ่งในห้าพื้นที่ดังกล่าวและเป้าหมายการพัฒนาจังหวัดตากให้ “เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงระเบียง เศรษฐกิจเหนือ-ใต้(NSEC) กับระเบียงเศรษฐกิจ ตะวันออก-ตะวันตก (EWEC) ที่เข้มแข็ง

ซึ่งตอนนี้รัฐบาลได้ดำเนินโครงการการพัฒนาแนวพื้นที่เศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor) และ แผนการพัฒนาขนส่งทางราง ของกระทรวงคมนาคม 1. การก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่โครงการ รถไฟ ทางคู่ แม่สอด-ตาก – กําแพงเพชร – นครสวรรค์ 2.ทางหลวงหมายเลข 12 แม่สอด (เขตเศรษฐกิจ พิเศษ)-สุโขทัย-พิษณุโลก-หล่มสัก-น้ำหนาว-ขอนแก่น-กาฬสินธุ์-มุกดาหารนั้น

ธุรกิจ.jpg04

“หากพื้นที่อ.เเม่สอดได้มีอุทยานการเรียนรู้ ซุ้มประตูสู่อารยะในพื้นที่เพื่อเป็นเเหล่งการเรียนรู้ของประชาชนเกี่ยวกับชุมชน ประวัติศาสตร์ ชาติพันธุ์ซึ่งในจังหวัดตากนั้น ประชากรบางส่วนในพื้นที่เป็นชาวไทยภูเขา (เชื้อชาติ กระเหรี่ยง ม้ง มูเซอ อีก้อ ลีซอ เย้า )รวมทั้งชาวเมียนมาที่เดินทางเข้า-ออกตามแนวชายแดนอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งอุทยานการเรียนรู้ซุ้มประตูสู่อารยะ สองอารยธรรมนั้นเป็นการเรียนรู้ทางด้านประวัติศาสตร์ ความหลากหลายทางเชื้อชาติที่สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติในดินแดนไทย”

โดยพื้นที่เกิดอุตสาหกรรมไมซ์ขึ้น จะสามารถใช้เป็นสถานที่จัดการประชุม การท่องเที่ยว การจัดประชุมนานาชาติ การจัดงานแสดงสินค้าหรือบริการ หากมีการก่อสร้างศูนย์ประชุมอุตสาหกรรมไมซ์ขนาด 2,500-3,000 คน ในพื้นที่ใกล้เคียงกับอุทยานการเรียนรู้ซุ้มประตูสู่อารยะ สองอารยธรรม จะสร้างรายได้เข้าอ.แม่สอดรวมกับรายได้จากการส่งออกไปยังเพื่อนบ้าน คือ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ได้ไม่ต่ำกว่าปีละหนึ่งแสนล้านบาท โดยได้เสนอข้อมูลและรายละเอียดเบื้องต้นให้รักษาการนายกรัฐมนตรีพิจารณาเพื่อตัดสินใจดำเนินการในชั้นต่อไป”

น.ส.ธนชพร กล่าวว่า อ.เเม่สอดมีศักยภาพในการเป็นประตูตะวันตกของไทยเชื่อมไปยังเมียนมา อินเดีย ตะวันออกกลางในวันข้างหน้าหากรัฐบาลเห็นความสำคัญ และอนุมัติหลักการขั้นต้นในการดำเนินงานตามที่ตนในฐานะตัวเเทนประชาชนในพื้นที่สะท้อนให้แกนนำรัฐบาลพิจารณาในครั้งนี้ เชื่อว่าจีดีพีและดัชนีความสุขของประชาชนในพื้นที่จะเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวในไม่กี่ปีข้างหน้า จึงขอให้พลเอกประวิตรช่วยผลักดันโครงการดังกล่าวให้ลุล่วงด้วย

อ่านข่าวเพิ่มเติม ได้ที่นี่ thaitangball888.com

ระหว่างลีกเลื่อนแข่ง เปิด 5 แข้งแอสซิสต์มากที่สุด “พรีเมียร์ลีก” ตั้งแต่ต้นปี 2020

ระหว่างที่ลีกเลื่อนแข่ง เปิดโผ 5 แข้งแอสซิสต์มากที่สุดใน “พรีเมียร์ลีก อังกฤษ” นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2020 โดยที่แข้งจาก “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” ยืนหนึ่งในโผนี้

วันที่ 12 ก.ย. 65 ระหว่างที่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ต้องเลื่อนการแข่งขันออกไป หลังจากที่ สมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร เสด็จสวรรคต ซึ่งมีพระชนมพรรษา 96 พรรษา โดยครองราชย์มานานกว่า 70 ปี จากการออกแถลงการณ์ของสำนักพระราชวังบัลมอรัล เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ระหว่างที่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ต้องเลื่อนการแข่งขันออกไป ทำให้บรรดาสื่อชื่อดังหลายสื่อของอังกฤษ แทงบอลขั้นต่ำ 10 บาท หยิบยกในเรื่องของสถิติและตัวเลขต่างๆ นำเสนอให้แฟนบอลไปพลางๆ ก่อน โดยมีหนึ่งในสถิติที่น่าสนใจนั่นคือการเผย 5 นักเตะที่สามารถทำแอสซิสต์ได้มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2020 โดยที่ บรูโน เฟอร์นันเดส กองกลางชาวโปรตุเกสจากค่าย “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยืนหนึ่งในโผนี้ ด้วยการทำไป 23 แอสซิสต์

ถัดมาอันดับ 2 มีสองคนนั่นคือ เควิน เดอ บรอยน์ จอมทัพชาวเบลเยียมของ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ตัวรุกชาวอียิปต์ของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทำไป 22 แอสซิสต์ ขณะที่อันดับ 4 ได้แก่ แฮร์รี เคน ดาวยิงชาวอังกฤษ แห่งค่าย “ไก่เดือยทอง” ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ทำไปได้ 21 แอสซิสต์ และอันดับที่ 5 นั่นคือ กาเบรียล เฆซุส กองหน้าชาวบราซิล สังกัดค่าย “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ทำไป 18 แอสซิสต์

อ่านข่าวเพิ่มเติม ได้ที่นี่ thaitangball888.com

บาคาร่า จ่ายยังไง

บาคาร่า จ่ายยังไง บาคาร่าออนไลน์ เล่นง่ายไม่มีขั้นต่ำ

การเล่นไพ่บาคาร่านั้น เป็นเกมพนันที่แฟร์ที่สุดชนิดนึง เพราะมีอาการจ่ายที่ 1 ต่อ 1 และนักพนันเป็นคนไม่เลือก รูปแบบการวางเดิมพันได้ด้วยตัวเองทั้งหมดไม่ว่าจะเลือกฝั่งผู้เล่นหรือฝั่งเจ้ามือ ก็ทำได้ง่ายๆตลอดเวลา และสำหรับ บาคาร่า จ่ายยังไง ก็ไม่มีอะไรยุ่งยากซับซ้อนถ้าเลือกฝั่งไหนแล้วถ้ามีแต่มากกว่าฝั่งนั้นก็ชนะ

ถ้าเลือกเดิมพันฝั่งผู้เล่นถ้าชนะก็กินเต็มแต่ถ้าเลือกวางเดิมพันฝั่งเจ้ามือถ้าชนะก็จะโดนหักค่าน้ำ 5% ซึ่ง บา ค่า ร่า เบื้องต้น เว็บบาคาร่าที่คนเล่นเยอะที่สุด แบบนี้นักพนันส่วนใหญ่ก็รับรู้ดีอยู่แล้ว แต่ว่าจะเลือกแทงฝั่งไหน สิ่งสำคัญที่สุดก็คือนักพนันทุกคนจะต้องอ่านเค้าไพ่ให้เป็นและพยายามสังเกตสถิติที่แสดงอยู่หน้าจอตลอดเวลา เพราะนั่นสามารถนำมาประเมินและความน่าจะเป็นในการลงทุนในแต่ละครั้งได้เลย

บาคาร่า-จ่ายยังไง

เลือกเดิมพันสบายๆ บาคาร่า จ่ายยังไง เลือกเล่นได้ง่ายถอนได้ไม่อั้น

การศึกษากฎกติกาและรูปแบบการเล่นเกมไพ่บาคาร่าทุกครั้งก่อนเข้าเล่นก็เป็นสิ่งจำเป็นเพราะนักพนันทุกคน จะได้เล่นเกมไพ่บาคาร่าออนไลน์แบบลื่นไหลและตัดสินใจได้อย่างทันท่วงที เพราะเกมไพ่บาคาร่านั้นมีรูปแบบการเล่นที่เร็วและต่อเนื่อง ดังนั้นการตัดสินใจที่รวดเร็วจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่สุด 

สำหรับนักพนันหน้าใหม่ก่อนที่จะเข้าเล่นเกมพนันแต่ละครั้งนั้น การศึกษากฎกติกาและรูปแบบการเล่นของเกมพนันแต่ละชนิดเป็นสิ่งจำเป็นและการศึกษากฎกติกา ของเกมไพ่บาคาร่าก็เช่นเดียวกัน ที่ไม่มีขั้นตอนอะไรยุ่งยากซับซ้อน อีกทั้งเป็นเกมพนันที่มีโอกาสที่จะชนะสูงที่สุด แต่สำหรับเงื่อนไข บาคาร่า จ่ายยังไง สำหรับหลายคนได้นำมาประเมินถึงความคุ้มค่าสำหรับการวางเดิมพันแต่ละครั้ง เพราะการเลือกแทงแต่ละฝั่งนั้นได้อัตราผลตอบแทนที่แตกต่างกัน ถ้าเลือกฝั่งผู้เล่นชนะก็ได้ผลตอบแทนเต็ม

แต่ถ้าเลือกแทงฝั่งเจ้ามือแล้วชนะก็จะโดนค่าค่าน้ำ 5% เพราะฉะนั้นแล้ว บาค่าร่า เบื้องต้น คือสิ่งที่นักพนันทุกคนจะต้องรู้ เพราะคุณจะได้ประเมินถึงความคุ้มค่าสำหรับการวางเดิมพันในแต่ละตา เพราะเกมบาคาร่ามีรูปแบบการเล่นที่ลื่นไหลต่อเนื่อง เพราะเป็นการใช้ไพ่ถึง 8 สำรับ และการเล่นแต่ละตาก็ไม่ถึงนาที ดังนั้นการศึกษาวิธีการต่างๆก่อนการลงทุน จะทำให้คุณตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและเลือกทำเงินได้อย่างคุ้มค่าที่สุด

บาค่าร่า-เบื้องต้น

การศึกษาวิธีการก่อนการเล่นบาคาร่าจะทำให้คุณคลายความสงสัย บาคาร่า และช่วยให้คุณเล่นได้อย่างต่อเนื่อง

บาคาร่า จ่ายยังไง และทำเงินได้อย่างลื่นไหลเพิ่มโอกาสทำเงินให้กับคุณได้อย่างมากมายแน่นอน เพราะการศึกษากฎกติกาเบื้องต้นของเกมไพ่บาคาร่าเป็นสิ่งจำเป็นที่นักพนันทุกคนจะต้องเรียนรู้ก่อนการลงทุน บาคาร่า จ่ายยังไง กติกาบาคาร่าสากล จะช่วยให้คุณเล่นบาคาร่าได้ลื่นไหล เพราะคุณสามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว เว็บบาคาร่าที่ดีที่สุด และช่วยให้คุณทำเงินได้อย่างมากมาย และรวยกับบาคาร่าได้อย่างแน่นอน